เซนต์คิตส์
และ เนวิส

เซนต์คิตส์
และ เนวิส

ลงทุนเริ่มต้นที่ $250,000

 ระยะเวลาได้รับพาสปอร์ตภายใน 6 – 8 เดือน

ลงทุนเริ่มต้นที่ $250,000

 ระยะเวลาได้รับพาสปอร์ตภายใน 6 – 8 เดือน

หมู่เกาะแคริบเบียน เซนต์คิตส์และเนวิสมีโครงการสัญชาติผ่านการลงทุน (CBI) ที่เก่าแก่ที่สุด (ก่อตั้งขึ้นในปี 1983)

และภูมิภาคแคริบเบียนยังคงเป็นผู้นำในตลาดสัญชาติผ่านการลงทุน

หมู่เกาะแคริบเบียน เซนต์คิตส์และเนวิสมีโครงการสัญชาติผ่านการลงทุน (CBI) ที่เก่าแก่ที่สุด (ก่อตั้งขึ้นในปี 1983) และภูมิภาคแคริบเบียนยังคงเป็นผู้นำในตลาดสัญชาติผ่านการลงทุน

เดินทางฟรีวีซ่ามากกว่า 140 ประเทศ

รวมถึงประเทศแถบเชงเกน, สหราชอาณาจักร, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และ ตุรกี

ปลอดภาษี

ปลอดภาษี

ไม่ว่าจากทรัพย์สิน ของขวัญ มรดก รายได้จากต่างประเทศ และกำไรจากการลงทุน

ไม่ว่าจากทรัพย์สิน ของขวัญ มรดก รายได้จากต่างประเทศ และกำไรจากการลงทุน

ไม่มีข้อกำหนดในการพำนัก

ไม่มีข้อกำหนดในการพำนัก

ไม่ว่าก่อนหรือหลังได้รับสัญชาติ

ไม่ว่าก่อนหรือหลังได้รับสัญชาติ

สัญชาติถาวรตลอดชีพ

ไม่สามารถเพิกถอนได้

ไม่สามารถเพิกถอนได้

เงื่อนไข ฟรี วีซ่า ที่เพิ่มขึ้น

เงื่อนไข ฟรี วีซ่า ที่เพิ่มขึ้น

สามารถเข้าแคนาดาได้

สามารถเข้าแคนาดาได้

ภาคส่วนธนาคารที่แข็งแรง

ภาคส่วนธนาคารที่แข็งแรง

พร้อมคอนเนคชั่นระดับสากล

พร้อมคอนเนคชั่นระดับสากล

โปรแกรมเพื่อสัญชาติที่ดีที่สุด

โปรแกรมเพื่อสัญชาติที่ดีที่สุด

ซึ่งเซนต์คิตส์และเนวิสได้รับรางวัลนี้

ซึ่งเซนต์คิตส์และเนวิสได้รับรางวัลนี้

คุณสมบัติของสมาชิกในครอบครัว

คุณสมบัติของสมาชิก
ในครอบครัว

ที่สามารถเป็นผู้ติดตามในโปรแกรมการลงทุนเพื่อสัญชาติเซนต์คิตส์ และ เนวิส

ที่สามารถเป็นผู้ติดตามในโปรแกรมการลงทุน

เพื่อสัญชาติเซนต์คิตส์ และ เนวิส

โปรแกรม CBI

สำหรับโปรแกรมลงทุนเพื่อสัญชาติเซนต์คิตส์ และ เนวิส

สำหรับโปรแกรมลงทุนเพื่อสัญชาติเซนต์คิตส์ และ เนวิส

โปรแกรม CBI

โปรแกรม CBI

เซนต์คิตส์และเนวิส

เซนต์คิตส์และเนวิส เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน และในปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ด้วยภูมิประเทศที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟ หาดทรายขาว และสภาพอากาศแบบเขตร้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

 

หนึ่งในเทศกาลสำคัญของประเทศคือ Sugar Mas Carnival ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนมกราคม นอกจากนี้ ยังมี St Kitts Musical Festival และ Culturama (Nevisian Carnival) ซึ่งเป็นเทศกาลที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและมรดกอันยาวนานของชาวเกาะ

 

เซนต์คิตส์และเนวิสเป็นประเทศเกาะคู่ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะลีวาร์ดของทะเลแคริบเบียน มีสถานที่ทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ Mount Liamuiga ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สงบแล้ว ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเซนต์คิตส์ และเคยมีชื่อว่า Mount Misery โดยเป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศที่ระดับความสูง 1,156 เมตร ขณะที่ Nevis Peak ซึ่งเป็นภูเขาไฟกลางเกาะเนวิส มีความสูง 985 เมตร และมักถูกปกคลุมด้วยเมฆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเกาะ เนื่องจากโคลัมบัสตั้งชื่อว่า Señora de las Nieves(Lady of the Snows) เพราะเมื่อผู้ตั้งถิ่นฐานกลุ่มแรกเดินทางมาถึง เมฆที่ล้อมรอบยอดเขาทำให้ดูเหมือนปกคลุมด้วยหิมะ

 

ชื่อ St Kitts เองก็มาจากชื่อเดิม St Christopher ซึ่งตั้งโดยโคลัมบัสเมื่อชาวสเปนเดินทางมาถึงเกาะนี้เป็นครั้งแรก ชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองเกาะสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของภูมิภาคแคริบเบียน ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง

เซนต์คิตส์และเนวิส เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน และในปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ด้วยภูมิประเทศที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟ หาดทรายขาว และสภาพอากาศแบบเขตร้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

หนึ่งในเทศกาลสำคัญของประเทศคือ Sugar Mas Carnival ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนมกราคม นอกจากนี้ ยังมี St Kitts Musical Festival และ Culturama (Nevisian Carnival) ซึ่งเป็นเทศกาลที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและมรดกอันยาวนานของชาวเกาะ

เซนต์คิตส์และเนวิสเป็นประเทศเกาะคู่ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะลีวาร์ดของทะเลแคริบเบียน มีสถานที่ทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ Mount Liamuiga ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สงบแล้ว ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเซนต์คิตส์ และเคยมีชื่อว่า Mount Misery โดยเป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศที่ระดับความสูง 1,156 เมตร ขณะที่ Nevis Peak ซึ่งเป็นภูเขาไฟกลางเกาะเนวิส มีความสูง 985 เมตร และมักถูกปกคลุมด้วยเมฆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเกาะ เนื่องจากโคลัมบัสตั้งชื่อว่า Señora de las Nieves(Lady of the Snows) เพราะเมื่อผู้ตั้งถิ่นฐานกลุ่มแรกเดินทางมาถึง เมฆที่ล้อมรอบยอดเขาทำให้ดูเหมือนปกคลุมด้วยหิมะ

ชื่อ St.Kitts เองก็มาจากชื่อเดิม St.Christopher ซึ่งตั้งโดยโคลัมบัสเมื่อชาวสเปนเดินทางมาถึงเกาะนี้เป็นครั้งแรก ชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองเกาะสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของภูมิภาคแคริบเบียน ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง

เซนต์คิตส์และเนวิสไม่ได้มีเพียงแค่ชายหาดสวยงามและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ หนึ่งในสถานที่สำคัญที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมคือ Brimstone Hill Fortress ป้อมปราการเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในป้อมปราการยุคอาณานิคมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุด และยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวแบบพาโนรามาของเกาะ พร้อมเรียนรู้เรื่องราวในอดีตของดินแดนแห่งนี้

 

 

อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของเซนต์คิตส์คือ ต้นซามานอายุกว่า 400 ปี ซึ่งถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะ ต้นไม้ต้นนี้แผ่กิ่งก้านปกคลุมพื้นที่กว้างกว่าครึ่งเอเคอร์ภายในบริเวณ Romney Manor คฤหาสน์ยุคอาณานิคมที่ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชม

 

 

ในอดีต หมู่เกาะแห่งนี้พึ่งพาอุตสาหกรรมอ้อยมาเป็นเวลากว่า 350 ปี แต่เมื่อถึงปี 2005 อุตสาหกรรมนี้เริ่มเสื่อมถอย ทำให้ประเทศต้องปรับตัวและหันมาเน้นภาคการท่องเที่ยวแทน หนึ่งในตัวอย่างของการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจที่เห็นได้ชัดคือ St.Kitts Scenic Railway รถไฟที่เคยถูกสร้างขึ้นเพื่อขนส่งอ้อย ปัจจุบันได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่พาผู้มาเยือนได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกาะ นอกจากนี้ เซนต์คิตส์ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านการแพทย์และสัตวแพทย์ โดยมีมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง University of Medicine and Health Sciences และ Ross University School of Veterinary Medicine ซึ่งมีศิษย์เก่าจำนวนมากจากอเมริกาเหนือ

 

 

ประเทศแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้านโครงการ Citizenship by Investment (CBI) ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานที่สุดในโลก ด้วยกระบวนการที่โปร่งใสและมีมาตรฐานสูง ประกอบกับคุณภาพชีวิตที่ดี วัฒนธรรมอันรุ่มรวย และแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้เซนต์คิตส์และเนวิสเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนจากทั่วโลก

เซนต์คิตส์และเนวิสไม่ได้มีเพียงแค่ชายหาดสวยงามและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์เท่านั้นแต่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ หนึ่งในสถานที่สำคัญที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมคือ Brimstone Hill Fortress ป้อมปราการเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในป้อมปราการยุคอาณานิคมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุด และยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวแบบพาโนรามาของเกาะ พร้อมเรียนรู้เรื่องราวในอดีตของดินแดนแห่งนี้

อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของเซนต์คิตส์คือ ต้นซามานอายุกว่า 400 ปี ซึ่งถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะ ต้นไม้ต้นนี้แผ่กิ่งก้านปกคลุมพื้นที่กว้างกว่าครึ่งเอเคอร์ภายในบริเวณ Romney Manor คฤหาสน์ยุคอาณานิคมที่ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชม

ในอดีต หมู่เกาะแห่งนี้พึ่งพาอุตสาหกรรมอ้อยมาเป็นเวลากว่า 350 ปี แต่เมื่อถึงปี 2005 อุตสาหกรรมนี้เริ่มเสื่อมถอย ทำให้ประเทศต้องปรับตัวและหันมาเน้นภาคการท่องเที่ยวแทน หนึ่งในตัวอย่างของการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจที่เห็นได้ชัดคือ St.Kitts Scenic Railway รถไฟที่เคยถูกสร้างขึ้นเพื่อขนส่งอ้อย ปัจจุบันได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่พาผู้มาเยือนได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกาะ

นอกจากนี้ เซนต์คิตส์ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านการแพทย์และสัตวแพทย์ โดยมีมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง University of Medicine and Health Sciences และ Ross University School of Veterinary Medicine ซึ่งมีศิษย์เก่าจำนวนมากจากอเมริกาเหนือ

ประเทศแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้านโครงการ Citizenship by Investment (CBI) ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานที่สุดในโลก ด้วยกระบวนการที่โปร่งใสและมีมาตรฐานสูง ประกอบกับคุณภาพชีวิตที่ดี วัฒนธรรมอันรุ่มรวย และแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้เซนต์คิตส์และเนวิสเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนจากทั่วโลก

นัดหมายเพื่อปรึกษากับเราวันนี้
เพื่อพาสปอร์ตเล่มที่สองของคุณ !

นัดหมายเพื่อปรึกษากับเราวันนี้
เพื่อพาสปอร์ตเล่มที่สองของคุณ !

นัดหมายเพื่อปรึกษากับเราวันนี้
เพื่อพาสปอร์ตเล่มที่สองของคุณ !

Scroll to Top