การขอสัญชาติที่สองผ่านการลงทุน หรือที่เรียกว่า CBI กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน โดยเฉพาะจากผู้ที่ต้องการเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทาง ขยายโอกาสทางธุรกิจในระดับโลก หรือสร้างความมั่นคงระยะยาวให้แก่ครอบครัว ซึ่งในบรรดาประเทศที่เปิดโอกาสนี้ กลุ่มประเทศแคริบเบียนกำลังเป็นที่จับตามองเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ดี หากคุณกำลังพิจารณาที่จะขอสัญชาติอยู่ สิ่งสำคัญที่ควรทำก่อนเริ่มต้นกระบวนการคือการทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ในทุกแง่มุม ตั้งแต่ข้อดี ข้อควรระวัง ไปจนถึงรายละเอียดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และวางแผนทุกอย่างให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นที่สุด

รู้จักโครงการขอสัญชาติกลุ่มประเทศแคริบเบียนผ่านการลงทุน
โครงการขอสัญชาติโดยการลงทุน (Citizenship by Investment Program – CBI) เป็นนโยบายพิเศษของกลุ่มประเทศในแถบแคริบเบียน เช่น โดมินิกา เซนต์ลูเซีย เซนต์คิตส์และเนวิส ที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถได้รับสัญชาติของประเทศเหล่านี้ผ่านการลงทุน โดยผู้สมัครสามารถเลือกลงทุนได้หลายรูปแบบ เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาประเทศ หรือการลงทุนในธุรกิจที่รัฐบาลรับรอง ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนเริ่มต้นที่ประมาณ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้จำนวนเงินที่ต้องลงทุนจะแตกต่างกันไปตามประเภทการลงทุนและประเทศที่เลือก
ขั้นตอนการสมัครขอสัญชาติกลุ่มประเทศแคริบเบียน
การขอสัญชาติผ่านการลงทุนในกลุ่มประเทศแคริบเบียนมี 5 ขั้นตอนสำคัญดังนี้
1. เลือกประเภทการลงทุน
ก่อนเริ่มกระบวนการ ผู้สมัครต้องเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะกับตนเองจาก 3 ทางเลือก ได้แก่
- การบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาประเทศเพื่อสนับสนุนโครงการภาครัฐ
- การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านการรับรองจากรัฐบาล
- การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลตามเงื่อนไขของแต่ละประเทศ
2. ยื่นเอกสารประกอบการสมัคร
หลังจากเลือกรูปแบบการลงทุนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการรวบรวมและจัดเตรียมเอกสารสำคัญให้ครบถ้วน ประกอบด้วย
- เอกสารยืนยันตัวตนและสถานะบุคคล
- หลักฐานแสดงความมั่นคงทางการเงิน
- ใบรับรองประวัติอาชญากรรม
- ใบรับรองแพทย์และประวัติสุขภาพ
3. ชำระเงินลงทุนตามงวด
เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ขั้นตอนสำคัญต่อมาคือการดำเนินการชำระเงินตามรูปแบบการลงทุนที่เลือก พร้อมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- ค่าตรวจสอบประวัติและสอบทานธุรกิจ
- ค่าดำเนินการตรวจสอบเอกสาร
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ตามที่แต่ละประเทศกำหนด
4. รอการพิจารณาและดำเนินการ
ภายหลังการชำระเงิน หน่วยงานรัฐจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนในการตรวจสอบข้อมูล เอกสาร และคุณสมบัติของผู้สมัครอย่างละเอียด
5. รับหนังสือเดินทางและเอกสารยืนยันสัญชาติ
ในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อผ่านการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครจะได้รับหนังสือเดินทางและเอกสารรับรองสัญชาติฉบับสมบูรณ์จากประเทศนั้น ๆ
ข้อดีของการถือสัญชาติกลุ่มประเทศแคริบเบียน
การถือสัญชาติในกลุ่มประเทศแคริบเบียน จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายที่จะช่วยเพิ่มโอกาสและความคล่องตัวในการดำเนินชีวิตระดับสากล ดังนี้
- เดินทางได้อย่างอิสระกว่า 140 ประเทศ
หนึ่งในข้อดีที่โดดเด่นที่สุดคือ การได้รับสิทธิ์เดินทางเข้าประเทศต่าง ๆ กว่า 140-157 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า รวมถึงกลุ่มประเทศในเขตเชงเก้น ซึ่งช่วยให้การเดินทางระหว่างประเทศสะดวกและคล่องตัวมากขึ้น - ไม่มีข้อผูกมัดในการพำนัก
อีกหนึ่งความยืดหยุ่นที่สำคัญคือ ผู้ถือสัญชาติไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในประเทศนั้น ๆ ทั้งก่อน ระหว่าง หรือหลังได้รับสัญชาติ ทำให้สามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจในประเทศอื่นได้อย่างอิสระ - สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ข้อได้เปรียบทางการเงินที่สำคัญคือ ไม่มีการเก็บภาษีจากรายได้ที่เกิดขึ้นนอกประเทศ รวมถึงภาษีความมั่งคั่ง ของขวัญ มรดก และกำไรจากการลงทุนต่างประเทศ - สิทธิ์ในการถือสองสัญชาติ
นอกจากนี้ ยังสามารถรักษาสัญชาติเดิมไว้ได้ เนื่องจากประเทศเหล่านี้อนุญาตให้ถือสองสัญชาติ ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากทั้งสองประเทศ - ความคุ้มครองตลอดชีพ
สิทธิประโยชน์ทั้งหมดนี้ไม่มีวันหมดอายุ เพราะเมื่อได้รับอนุมัติแล้ว จะได้รับสิทธิ์การเป็นพลเมืองตลอดชีพ และสามารถส่งต่อให้รุ่นต่อไปได้
ข้อควรระวังในการขอสัญชาติกลุ่มประเทศแคริบเบียน
แม้ว่าการขอสัญชาติกลุ่มประเทศแคริบเบียนจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีรายละเอียดสำคัญที่ผู้สมัครควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
- ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ติดตามให้ครบถ้วน
การขอสัญชาติแคริบเบียนสามารถรวมสมาชิกครอบครัวได้ตามเงื่อนไขตามที่แต่ละประเทศกำหนด โดยแบ่งเป็น
- คู่สมรส : รวมในการสมัครได้ทันทีโดยไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ
- บุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี : ไม่ว่าจะเป็นบุตรของผู้สมัครหลักหรือคู่สมรส สามารถรวมในการสมัครได้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม
- บุตรอายุ 18-30 ปี : ต้องกำลังศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ได้รับการรับรอง และต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้สมัครหลักหรือคู่สมรส
- บิดามารดา : ต้องมีอายุมากกว่า 65 ปี และต้องแสดงหลักฐานว่าได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้สมัครหลักหรือคู่สมรสอย่างต่อเนื่อง
- ข้อกำหนดพิเศษ : หากผู้สมัครหรือผู้ติดตามมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จะต้องผ่านการสัมภาษณ์พิเศษตามเงื่อนไขของแต่ละประเทศ เพื่อประเมินความพร้อมและคุณสมบัติเพิ่มเติม
- คู่สมรส : รวมในการสมัครได้ทันทีโดยไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ
- ตรวจสอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
นอกเหนือจากเงินลงทุนหลัก ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบประวัติ ค่าดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งอาจเพิ่มงบประมาณโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ - พิจารณาระยะเวลาถือครองทรัพย์สิน
สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ต้องศึกษาข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาการถือครองให้ชัดเจน เนื่องจากแต่ละประเทศมีเงื่อนไขแตกต่างกัน โดยทั่วไปต้องถือครองอย่างน้อย 3-5 ปีก่อนจึงจะสามารถขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ได้
ค่าใช้จ่ายและการลงทุนในโปรแกรมการขอสัญชาติกลุ่มประเทศแคริบเบียน
1. โดมินิกา
โปรแกรมขอสัญชาติโดมินิกาเปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้รับสัญชาติผ่านการบริจาคเงินทุนแก่โครงการภาครัฐและเอกชนในประเทศโดมินิกา เพื่อการพัฒนาประเทศและสนับสนุนความก้าวหน้าทางสังคมและความมั่นคงทางการเงินของประเทศ (Economic Diversification Fund: EDF) หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล โดยมีค่าใช้จ่ายและการลงทุนดังนี้
- บริจาคเข้ากองทุน EDF : เงินลงทุนขั้นต่ำ 200,0000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครคนเดียว
- ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ : เงินลงทุนขั้นต่ำ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล
2. เซนต์ลูเซีย
โปรแกรมของเซนต์ลูเซียมีตัวเลือกในการลงทุนทั้งการบริจาคเข้ากองทุนเศรษฐกิจแห่งชาติ หรือการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการรับรอง โดยมีค่าใช้จ่ายดังนี้
- บริจาคเข้ากองทุนเศรษฐกิจแห่งชาติ : เงินลงทุนขั้นต่ำ 240,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครคนเดียว
- ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ : เงินลงทุนขั้นต่ำ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการอนุมัติ
3. เซนต์คิตส์และเนวิส
โปรแกรมของประเทศเซนต์คิตส์และเนวิสเปิดโอกาสให้ขอสัญชาติผ่านการลงทุน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 โดยผู้สมัครสามารถเลือกการลงทุนในกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ หรือการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล
- บริจาคเข้ากองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ : เงินลงทุนขั้นต่ำ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ : เงินลงทุนขั้นต่ำ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล

แน่นอนว่าการขอสัญชาติหรือที่หลายคนเรียกว่า “ซื้อสัญชาติ” ในกลุ่มประเทศแคริบเบียนมีข้อดีมากมาย และด้วยเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น ทำให้ภูมิภาคนี้ถือเป็น “ประเทศที่ขอสัญชาติง่ายที่สุด” แห่งหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขอสัญชาติที่สองเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งด้านกฎหมาย ภาษี และการลงทุน ดังนั้น Premier Consultancy จึงพร้อมที่จะเป็นผู้ดูแลคุณในทุกขั้นตอน
ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ทีมงานของเราไม่เพียงช่วยคุณเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังดูแลการดำเนินการด้านเอกสารและกฎหมายอย่างครบถ้วน เพื่อให้กระบวนการขอสัญชาติของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
สนใจรับคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้เลยที่
- โทร : 063-439-8678, 096-991-8372, 02-664-8882 ต่อ 120
- อีเมล : bangkokoffice@premierconsultancy.com